Efficiency Ratio คืออะไร สูตรคืออะไร อธิบายวิธีคำนวณ พร้อมยกตัวอย่าง ข้อดีข้อเสีย

Efficiency Ratio คืออะไร

อัตราส่วนประสิทธิภาพ (Efficiency Ratio) คือตัวชี้วัดทางการเงินที่ใช้ในการวิเคราะห์ความสามารถของบริษัทในการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพในการสร้างรายได้หรือกำไร อัตราส่วนนี้ช่วยในการวัดว่าบริษัทนั้นสามารถดำเนินธุรกิจของตนได้ดีแค่ไหน เมื่อเทียบกับรายจ่ายที่เกิดขึ้นในกระบวนการดำเนินธุรกิจของบริษัทนั้นๆ อัตราส่วนประสิทธิภาพมักถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์และเปรียบเทียบความสามารถในการจัดการทรัพยากรของบริษัทต่าง ๆ และช่วยในการตัดสินใจเกี่ยวกับการปรับปรุงกระบวนการธุรกิจและการบริหารจัดการในการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจของบริษัทให้ดีขึ้นได้

อัตราส่วนที่ใช้ในการวัดประสิทธิภาพของกิจการในด้านการจัดการทรัพยากรและสินทรัพย์ต่าง ๆ ในการสร้างรายได้ และอย่างที่คุณได้ระบุไว้ อัตราส่วนเหล่านี้มีความสำคัญในการวิเคราะห์และประเมินประสิทธิภาพทางธุรกิจขององค์กร โดยอัตราส่วนประสิทธิภาพประกอบด้วย

  1. อัตราการหมุนเวียนของลูกหนี้ (Account Receivable Turnover) เป็นอัตราส่วนทางการเงินที่ใช้ในการวัดประสิทธิภาพของบริษัทในการจัดการลูกหนี้ อัตรานี้ช่วยให้คุณเข้าใจว่าบริษัทมีความสามารถในการรับเงินจากลูกหนี้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ อัตราการหมุนเวียนของลูกหนี้ยิ่งสูงขึ้นแสดงว่าบริษัทมีความสามารถในการรับเงินจากลูกหนี้ได้อย่างรวดเร็วและไม่คงค้างเงินจากลูกหนี้นานเกินไป
  2. อัตราการหมุนเวียนของสินค้าคงเหลือ (Inventory Turnover Ratio) เป็นอัตราส่วนทางการเงินที่ใช้ในการวัดประสิทธิภาพของกิจการในการบริหารจัดการสินค้าคงเหลือ อัตราส่วนนี้ช่วยในการวิเคราะห์ว่าสินค้าถูกนำออกจากคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ โดยการหมุนเวียนสินค้าคงเหลือที่รวดเร็วมักจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาสินค้าและเพิ่มรายได้
  3. อัตราหมุนเวียนของสินทรัพย์ถาวร (Fixed Asset Turnover Ratio) เป็นอัตราส่วนทางการเงินที่ใช้ในการวัดความประสิทธิภาพขององค์กรในการใช้สินทรัพย์ถาวร เพื่อสร้างรายได้หรือกำไร ค่าอัตราส่วนนี้ช่วยในการวิเคราะห์ว่าบริษัทมีความสามารถในการใช้สินทรัพย์ถาวรในการสร้างรายได้หรือกำไรอย่างมีประสิทธิภาพแค่ไหน เช่น เครื่องจักร ค่าสูงแสดงว่าบริษัทสามารถใช้สินทรัพย์ถาวรในการสร้างรายได้หรือกำไรได้ดี
  4. อัตราการหมุนเวียนของสินทรัพย์รวม (Total Assets Turnover) เป็นอัตราส่วนทางการเงินที่ใช้ในการวัดความสามารถขององค์กรในการใช้สินทรัพย์ทั้งหมดในการสร้างรายได้หรือกำไร อัตราส่วนนี้ช่วยในการวิเคราะห์ว่าองค์กรมีประสิทธิภาพในการใช้สินทรัพย์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ

 

Efficiency Ratio สูตรคืออะไร

สูตร Efficiency Ratio เหล่านี้มีความสำคัญในการวิเคราะห์และประเมินประสิทธิภาพทางการเงินขององค์กร และช่วยในการตัดสินใจเกี่ยวกับการปรับปรุงกระบวนการธุรกิจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานขององค์กรให้ดียิ่งขึ้น

สูตรอัตราการหมุนเวียนของลูกหนี้

อัตราการหมุนเวียนของลูกหนี้ (Account Receivable Turnover) แสดงถึงความสามารถในการจัดการลูกหนี้ ค่าที่สูงขึ้นแสดงว่าบริษัทมีความสามารถในการรับเงินจากลูกหนี้อย่างรวดเร็ว และไม่คงค้างเงินจากลูกหนี้นานเกินไป สูตรการคำนวณอัตราการหมุนเวียนของลูกหนี้ (Account Receivable Turnover) คือ

สูตรการคำนวณอัตราการหมุนเวียนของลูกหนี้ (Account Receivable Turnover)
สูตรการคำนวณอัตราการหมุนเวียนของลูกหนี้ (Account Receivable Turnover)

เมื่อคำนวณแล้วได้ค่า Account Receivable Turnover คุณสามารถใช้ค่านี้ในการวิเคราะห์ประสิทธิภาพในการจัดการลูกหนี้ของบริษัท อัตราที่สูงแสดงว่าบริษัทมีความสามารถในการรับเงินจากลูกหนี้อย่างรวดเร็ว และไม่คงค้างเงินจากลูกหนี้นานเกินไป แต่ควรพิจารณาว่าอัตรานี้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละอุตสาหกรรมและควรเปรียบเทียบกับอัตราเฉลี่ยในอุตสาหกรรมเพื่อทำการวิเคราะห์อย่างมีประสิทธิภาพ

 

อัตราการหมุนเวียนของสินค้าคงเหลือ

อัตราการหมุนเวียนของสินค้าคงเหลือ (Inventory Turnover Ratio) วัดความสามารถในการจัดการสินค้าคงเหลือ ค่าสูงแสดงว่าสินค้ามีการหมุนเวียนมากและไม่คงค้างอยู่ในคลังสินค้านานเกินไป อัตราการหมุนเวียนของสินค้าคงเหลือ  คำนวณได้โดยใช้สูตรต่อไปนี้

สูตรการคำนวณ อัตราการหมุนเวียนของสินค้าคงเหลือ (Inventory Turnover Ratio)
สูตรการคำนวณ อัตราการหมุนเวียนของสินค้าคงเหลือ (Inventory Turnover Ratio)

ยอดขายสุทธิ และ ค่าเฉลี่ยสินค้าคงเหลือ จะต้องใช้ข้อมูลการเงินและบัญชีจากบริษัทของคุณในระยะเวลาที่คุณต้องการทราบอัตราการหมุนเวียนของสินค้าคงเหลือนั้น ๆ เช่น รอบการวิเคราะห์ปี, ไตรมาส, เดือน เป็นต้น โดยคำนวณ Inventory Turnover Ratio ช่วยให้คุณเข้าใจว่าสินค้าของคุณถูกนำออกจากคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ โดยอัตรานี้สูงแสดงว่าสินค้ามีการหมุนเวียนสูงและไม่คงค้างอยู่ในคลังสินค้านานเกินไป อัตราการหมุนเวียนของสินค้าคงเหลือสามารถช่วยในการวิเคราะห์และจัดการสต็อกสินค้าเพื่อให้คลังสินค้ามีประสิทธิภาพและช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาสินค้า

 

อัตราหมุนเวียนของสินทรัพย์ถาวร

อัตราหมุนเวียนของสินทรัพย์ถาวร (Fixed Asset Turnover Ratio) วัดความสามารถในการใช้สินทรัพย์ถาวร เช่น เครื่องจักร ค่าสูงแสดงว่าบริษัทสามารถใช้สินทรัพย์ถาวรในการสร้างรายได้หรือกำไรได้ดี อัตราหมุนเวียนของสินทรัพย์ถาวร  คำนวณได้โดยใช้สูตรต่อไปนี้

สูตรการคำนวณ อัตราหมุนเวียนของสินทรัพย์ถาวร (Fixed Asset Turnover Ratio)
สูตรการคำนวณ อัตราหมุนเวียนของสินทรัพย์ถาวร (Fixed Asset Turnover Ratio)

ค่า Fixed Asset Turnover Ratio ที่มากแสดงว่าบริษัทสามารถใช้สินทรัพย์ถาวรในการสร้างรายได้หรือกำไรอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีความสามารถในการหมุนเวียนสินทรัพย์ถาวรได้อย่างดี ค่าต่ำแสดงว่าสินทรัพย์ถาวรไม่ได้ถูกใช้ให้เกิดรายได้หรือกำไรอย่างมีประสิทธิภาพ การวิเคราะห์ Fixed Asset Turnover Ratio สามารถช่วยในการบ่งชี้ถึงประสิทธิภาพของการจัดการสินทรัพย์ถาวรในองค์กรและในการตัดสินใจเกี่ยวกับการปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้สินทรัพย์ถาวรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

อัตราการหมุนเวียนของสินทรัพย์รวม

อัตราการหมุนเวียนของสินทรัพย์รวม (Total Assets Turnover) วัดความสามารถในการใช้สินทรัพย์ทั้งหมด เป็นตัวชี้วัดความประสิทธิภาพทางการเงินที่วัดว่าบริษัทมีความสามารถในการใช้สินทรัพย์ในการสร้างรายได้หรือกำไรอย่างมีประสิทธิภาพแค่ไหน อัตราการหมุนเวียนของสินทรัพย์รวม คำนวณได้โดยใช้สูตรต่อไปนี้

สูตรการคำนวณ อัตราการหมุนเวียนของสินทรัพย์รวม (Total Assets Turnover)
สูตรการคำนวณ อัตราการหมุนเวียนของสินทรัพย์รวม (Total Assets Turnover)

เมื่อคำนวณอัตรา Total Assets Turnover แล้ว ค่าที่ได้จะแสดงว่าองค์กรมีความสามารถในการใช้สินทรัพย์ในการสร้างรายได้หรือกำไร โดยค่าที่สูงขึ้นแสดงถึงความสามารถในการจัดการสินทรัพย์ให้อยู่ในการใช้งานหรือลงทุนในอุตสาหกรรมหรือกิจการที่สร้างรายได้มากขึ้นในแต่ละหน่วยของสินทรัพย์ทั้งหมดที่ถือครองโดยองค์กร

ตัวอย่าง Efficiency Ratio

นี่คือตัวอย่างของแต่ละอัตราส่วนที่แสดงประสิทธิภาพในการทำงาน (Efficiency Ratio) ที่ยกตวอย่างมาบางส่วนคืออัตราการหมุนเวียนของลูกหนี้ (Account Receivable Turnover) และอัตราการหมุนเวียนของสินค้าคงเหลือ (Inventory Turnover Ratio) พร้อมกับการคำนวณและอธิบายแต่ละข้อ ดังนี้

การคำนวณอัตราการหมุนเวียนของลูกหนี้

เพื่อให้คุณเข้าใจวิธีการคำนวณอัตราการหมุนเวียนของลูกหนี้ (Account Receivable Turnover) ดีกว่า นี่คือตัวอย่างการคำนวณด้วยข้อมูลเบื้องต้น:สมมุติว่าบริษัท XYZ มียอดขายสุทธิ (Net Sales) ในปีที่ผ่านมาเป็นจำนวน 2,000,000 บาท และเจ้าหนี้ลูกหนี้เริ่มต้นในปีเป็นจำนวน 100,000 บาท และสิ้นสุดปีเป็นจำนวน 150,000 บาท ในกรณีนี้เราสามารถคำนวณอัตราการหมุนเวียนของลูกหนี้ได้ดังนี้:

1.คำนวณเจ้าหนี้ลูกหนี้เฉลี่ย (Average Accounts Receivable):

คำนวณเจ้าหนี้ลูกหนี้เฉลี่ย (Average Accounts Receivable)

2. คำนวณ Account Receivable Turnover:

ตัวอย่าง การคำนวณ Account Receivable Turnover

ดังนั้น อัตราการหมุนเวียนของลูกหนี้ (Account Receivable Turnover) ของบริษัท XYZ ในปีนี้คือ 16 รอบ นั่นคือบริษัทสามารถรับเงินจากลูกหนี้ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพในการจัดการลูกหนี้ในปีนี้

การคำนวณอัตราการหมุนเวียนของสินค้าคงเหลือ

นี่คือตัวอย่างการคำนวณอัตราการหมุนเวียนของสินค้าคงเหลือ (Inventory Turnover Ratio):

พิจารณาบริษัท XYZ ซึ่งมีข้อมูลดังนี้:

    • ยอดขายสุทธิ (Net Sales) ในรอบปี 2022 คือ 1,000,000 บาท
    • ค่าเฉลี่ยสินค้าคงเหลือ (Average Inventory) ในรอบปี 2022 คือ 200,000 บาท

เราสามารถคำนวณอัตราการหมุนเวียนของสินค้าคงเหลือได้ดังนี้:

ตัวอย่างการคำนวณอัตราการหมุนเวียนของสินค้าคงเหลือ
ตัวอย่างการคำนวณอัตราการหมุนเวียนของสินค้าคงเหลือ

ดังนั้น, อัตราการหมุนเวียนของสินค้าคงเหลือของบริษัท XYZ ในรอบปี 2022 คือ 5 รอบ (หรือ 5 ครั้งต่อปี) นั่นหมายความว่าสินค้าของบริษัทมีการหมุนเวียน 5 ครั้งในรอบปีนี้ หรือสินค้าถูกขายและเปลี่ยนแปลงในคลังสินค้า 5 ครั้งในรอบปีนี้ การมีอัตราการหมุนเวียนสูงมักแสดงถึงการจัดการสินค้าคงเหลืออย่างมีประสิทธิภาพและการลดความคงค้างในคลังสินค้าอย่างมาก

ข้อดีข้อเสียของ Efficiency Ratio

Efficiency Ratio (อัตราส่วนประสิทธิภาพ) เป็นตัวชี้วัดทางการเงินที่มีข้อดีและข้อเสียต่าง ๆ ตามด้านล่างดังนี้

ข้อดีข้อเสียของ Efficiency Ratio
ข้อดีข้อเสียของ Efficiency Ratio

ข้อดีของ Efficiency Ratio

    1. การวิเคราะห์ประสิทธิภาพในการจัดการทรัพยากร: Efficiency Ratio ช่วยในการวิเคราะห์ความสามารถในการจัดการทรัพยากรและรายได้ขององค์กร โดยช่วยให้ผู้บริหารทราบว่าองค์กรมีประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรหรือไม่ และว่ามีโอกาสลดค่าใช้จ่ายหรือเพิ่มรายได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่
    2. เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จทางธุรกิจ: Efficiency Ratio เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการวัดประสิทธิภาพทางธุรกิจขององค์กร ถ้า Efficiency Ratio มีค่าต่ำแสดงว่าบริษัทมีความสามารถในการจัดการทรัพยากรและรายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีผลในการเพิ่มกำไรขององค์กร
    3. ใช้ในการเปรียบเทียบ: Efficiency Ratio สามารถใช้ในการเปรียบเทียบประสิทธิภาพทางการเงินขององค์กรในอุตสาหกรรมเดียวกัน หรือระหว่างบริษัทที่ในกลุ่มเดียวกัน นี่เป็นวิธีที่ผู้บริหารและนักลงทุนใช้ในการตัดสินใจเกี่ยวกับการลงทุนหรือการรวมธุรกิจ

ข้อเสียของ Efficiency Ratio

    1. ข้อมูลอาจไม่ครอบคลุมทั้งหมด: Efficiency Ratio อาจไม่ครอบคลุมปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพทางธุรกิจทั้งหมด เช่น อัตราดอกเบี้ยที่จ่าย ค่าใช้จ่ายในการตลาด หรือปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจมีผลต่อความสามารถในการสร้างรายได้และกำไร
    2. ขึ้นอยู่กับบริบท: Efficiency Ratio มีความหมายแตกต่างกันขึ้นอยู่กับบริบทของธุรกิจและอุตสาหกรรม บางอุตสาหกรรมอาจมีมาตรฐาน Efficiency Ratio ที่สูงกว่าอุตสาหกรรมอื่น ๆ และอาจไม่เหมาะสมในการใช้เปรียบเทียบระหว่างอุตสาหกรรม
    3. ไม่ใช่ตัวชี้วัดที่ครอบคลุมทุกส่วนขององค์กร: Efficiency Ratio มุ่งเน้นที่การจัดการทรัพยากรและรายได้ในทางการเงิน แต่ไม่ครอบคลุมทุกส่วนขององค์กรเช่น ด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์หรือบริการ ความพร้อมทางก่อสร้างและการบริหารความเสี่ยง
    4. ไม่ระบุสาเหตุของปัญหา: Efficiency Ratio อาจช่วยในการระบุปัญหาทางการเงินแต่ไม่ระบุสาเหตุของปัญหา การวิเคราะห์ควรครอบคลุมด้วยข้อมูลอื่น ๆ เพื่อหาสาเหตุและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในองค์กร