D/A ratio คืออะไร
D/A ratio หรือ Debt-to-Asset ratio คือ อัตราส่วนหนี้สินต่อสินทรัพย์รวม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ใช้วัดความเสี่ยงในการใช้หนี้ของธุรกิจหรือองค์กร ค่า D/A ratio นี้บ่งบอกว่าธุรกิจมีหนี้สินมากน้อยแค่ไหนเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ทั้งหมดที่มีอยู่ ค่า D/A ratio สูงจะแสดงถึงการใช้หนี้มากกว่าสินทรัพย์รวม ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสี่ยงสูงขึ้นเมื่อต้องชำระหนี้ ในทางกลับกัน ค่า D/A ratio ต่ำก็แสดงถึงความเสี่ยงน้อยของการใช้หนี้ แต่ก็อาจแสดงถึงการใช้ทุนเอนไปในการลงทุนที่ไม่มีรายได้สูงนัก ดังนั้นการจัดการ D/A ratio เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการบริหารการเงินและความเสี่ยงของธุรกิจหรือองค์กร
อัตราส่วนหนี้สินต่อสินทรัพย์รวมมีความสำคัญในการวิเคราะห์ความเสี่ยงการเงินของธุรกิจหรือองค์กร การเพิ่มขึ้นของอัตราส่วนนี้อาจสื่อถึงความเสี่ยงทางการเงินที่สูงขึ้น เนื่องจากมีหนี้สินมากขึ้นเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ ซึ่งอาจทำให้ยากต่อการชำระหนี้ โดยส่วนหนี้สินทั้งหมดรวมถึงหนี้สินที่ต้องชำระในระยะยาวและระยะสั้น เช่น เงินกู้ยืมจากธนาคารหรือผู้ลงทุน และสินทรัพย์รวมรวมถึงทรัพย์สินทุกประเภทที่องค์กรครอบครอง เช่น เงินสด, สินค้าคงคลัง, อสังหาริมทรัพย์, และสินทรัพย์อื่น ๆ ที่มีค่าเช่นที่ดินและอาคาร เป็นต้น
สูตรคำนวณD/A ratio
ค่า D/A ratio (Debt-to-Asset ratio) คำนวณได้โดยใช้สูตรต่อไปนี้:
D/A ratio = หนี้สินรวม / สินทรัพย์รวม
- “หนี้สินรวม” คือ จำนวนหนี้ที่องค์กรหรือธุรกิจครอบครองหรือต้องชำระในระยะยาวหรือระยะสั้น รวมถึงหนี้ต่างๆ เช่น หนี้ยืมเงินธนาคาร, หนี้พาณิชย์, หนี้รายจ่ายค้างชำระ, หนี้สินทางการเงินอื่นๆ เป็นต้น.
- “สินทรัพย์รวม” คือ มูลค่าของสินทรัพย์ทั้งหมดที่องค์กรหรือธุรกิจครอบครอง รวมถึงสินทรัพย์สินค้าหรือที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งสินทรัพย์อื่นๆ ที่เป็นทรัพย์สินขององค์กร.
การคำนวณ D/A ratio จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าส่วนใหญ่ของสินทรัพย์ขององค์กรถูกเงินกู้หรือไม่ ค่า D/A ratio สูงกว่าจะแสดงถึงการใช้หนี้มากกว่าสินทรัพย์ และความเสี่ยงทางการเงินที่สูงขึ้น ในทางกลับกัน ค่า D/A ratio ต่ำกว่าจะแสดงถึงการใช้หนี้น้อยกว่าสินทรัพย์ และความเสี่ยงน้อยกว่าในการชำระหนี้ในอนาคต
ตัวอย่างการคำนวณ D/A ratio
เพื่อให้คุณเข้าใจวิธีการคำนวณ D/A ratio (Debt-to-Asset ratio) ได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น ดังนั้นขอแสดงตัวอย่างการคำนวณดังนี้
ตัวอย่างที่ 1
สมมุติว่าบริษัท XYZ มีหนี้สินรวม (Total Debt) มูลค่า 2,000,000 บาท และสินทรัพย์รวม (Total Assets) มูลค่า 5,000,000 บาท ในช่วงเวลาที่เราสนใจคำนวณ D/A ratio นี้ (ใช้หน่วยเงินบาท) เราสามารถคำนวณ D/A ratio ได้ดังนี้
D/A ratio = หนี้สินรวม / สินทรัพย์รวม
D/A ratio = 2,000,000 / 5,000,000
D/A ratio = 0.4
ดังนั้น D/A ratio ของบริษัท XYZ ในช่วงเวลาที่ระบุคือ 0.4 หรือ 40% ซึ่งหมายความว่า 40% ของสินทรัพย์ของบริษัทได้รับการเงินกู้ และ 60% ของสินทรัพย์เป็นทรัพย์สินที่ไม่เป็นหนี้สิน นี่เป็นตัวอย่างของการคำนวณ D/A ratio และช่วยให้เราเข้าใจว่าบริษัทนี้มีค่า D/A ratio ที่ต่ำแสดงถึงการใช้หนี้น้อยกว่าสินทรัพย์และความเสี่ยงทางการเงินที่น้อยขึ้น
ตัวอย่างที่ 2
สมมุติว่าบริษัท ABC มีหนี้สินรวม (Total Debt) มูลค่า 3,500,000 บาท และสินทรัพย์รวม (Total Assets) มูลค่า 8,000,000 บาท ในช่วงเวลาที่เราสนใจคำนวณ D/A ratio นี้ (ใช้หน่วยเงินบาท) เราสามารถคำนวณ D/A ratio ได้ดังนี้
D/A ratio = หนี้สินรวม / สินทรัพย์รวม
D/A ratio = 3,500,000 / 8,000,000
D/A ratio = 0.4375
ดังนั้น D/A ratio ของบริษัท ABC ในช่วงเวลาที่ระบุคือ 0.4375 หรือ 43.75% ซึ่งหมายความว่า 43.75% ของสินทรัพย์ของบริษัทได้รับการเงินกู้ และ 56.25% ของสินทรัพย์เป็นทรัพย์สินที่ไม่เป็นหนี้สิน ในกรณีนี้ก็ยังแสดงถึงการใช้หนี้น้อยกว่าสินทรัพย์และความเสี่ยงทางการเงินที่น้อยลงอีกครั้งโดยจะแสดงให้เห็นว่าบริษัทนี้อาจจะมีการบริหารการเงินที่ดีและความเสี่ยงต่ำ
สามารถดู D/A ratio ตรงไหน
ค่า D/A ratio (Debt-to-Asset ratio) สามารถดูได้จากงบการเงินหรือรายงานการเงินขององค์กรหรือธุรกิจที่เป็นข้อมูลสาธารณะ รายงานการเงินประจำปีจะประกอบด้วยส่วนสำคัญที่จำเป็นสำหรับการคำนวณ D/A ratio ดังนี้:
งบทดลอง
งบทดลอง (Balance Sheet) เป็นส่วนหนึ่งของรายงานการเงินขององค์กรหรือธุรกิจ ซึ่งสรุปข้อมูลเกี่ยวกับสถานะการเงินในวันที่รายงาน. งบทดลองมักถูกแบ่งเป็นสองส่วนหลัก คือสินทรัพย์ (Assets) และหนี้สินและส่วนของเจ้าของ (Liabilities and Equity) หรือสินทรัพย์-หนี้สินและส่วนของเจ้าของ ต่อไปนี้เป็นข้อมูลเกี่ยวกับส่วนสำคัญในงบทดลอง:
-
- สินทรัพย์ (Assets): สินทรัพย์แบ่งออกเป็นสามประเภทหลัก คือ
- สินทรัพย์หมุนเวียน (Current Assets): รวมถึงเงินสด, เงินฝากธนาคาร, สินค้าคงคลัง, และสินทรัพย์ที่หมุนเวียนได้ในระยะเวลาสั้น ๆ เช่น บัญชีลูกหนี้.
- สินทรัพย์ถาวร (Fixed Assets): รวมถึงที่ดิน, อสังหาริมทรัพย์, เครื่องมือและอุปกรณ์, และสินทรัพย์ถาวรอื่น ๆ ที่มีอายุการใช้งานนาน.
- สินทรัพย์ลงทุน (Investments): รวมถึงการลงทุนในหลักทรัพย์, บริหารการลงทุน, และสินทรัพย์ลงทุนอื่น ๆ.
- หนี้สินและส่วนของเจ้าของ (Liabilities and Equity): ส่วนนี้แบ่งเป็นสองส่วนหลัก คือ
- หนี้สิน (Liabilities): รวมถึงหนี้ระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งรวมถึงหนี้เงินธนาคาร, หนี้พาณิชย์, บัญชีลูกหนี้, และหนี้สินอื่น ๆ.
- ส่วนของเจ้าของ (Owner’s Equity): รวมถึงทุนจดทะเบียน, กำไรสะสม (หรือขาดทุนสะสม), และส่วนที่เป็นของเจ้าของในบริษัท.
- สินทรัพย์ (Assets): สินทรัพย์แบ่งออกเป็นสามประเภทหลัก คือ
รายงานรายได้และกำไรขาดทุน
รายงานรายได้และกำไรขาดทุน (Income Statement) เป็นเอกสารทางการเงินที่แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับรายได้ขององค์กรหรือธุรกิจในระยะเวลาที่กำหนด (รายงานรายได้ประจำไตรมาส, ปีบัญชี, หรือระยะเวลาอื่นๆ) รวมถึงรายจ่ายที่เกี่ยวข้อง และกำไรหรือขาดทุนที่ต้องการรายงาน. รายงานนี้ช่วยในการวิเคราะห์ประสิทธิภาพทางการเงินขององค์กรและสามารถช่วยในการตัดสินใจทางการบริหาร นี่คือส่วนที่บรรจุข้อมูลเกี่ยวกับรายได้และรายจ่ายขององค์กรการเงินประจำปียังมีค่าบางค่าที่เกี่ยวข้องกับค่า D/A ratio อาทิ “ดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย” (Interest Expense) ซึ่งบ่งบอกถึงค่าดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายต่อหนี้.
การตรวจสอบ D/A ratio จะช่วยให้คุณเข้าใจการใช้หนี้ขององค์กรและระดับความเสี่ยงทางการเงินของมันในมุมมองทางการเงิน. ค่า D/A ratio สูงมากอาจแสดงถึงการใช้หนี้มากเกินไปและเสี่ยงต่อการจ่ายดอกเบี้ยและชำระหนี้ ในขณะที่ค่า D/A ratio ต่ำมากอาจแสดงถึงการใช้หนี้น้อยเกินไปและรายได้ที่ต่ำจากการลงทุนในทรัพย์สินหรือโครงการใหม่ การวิเคราะห์ D/A ratio ควรทำใน context ของธุรกิจและอุตสาหกรรมที่เฉพาะเจาะจงเนื่องจากมีค่ามาตรฐานที่แตกต่างกันในแต่ละธุรกิจ
ส่วนสำคัญของ D/A Ratio ในการวิเคราะห์
D/A Ratio (Debt-to-Asset Ratio) เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการวิเคราะห์การเงินของธุรกิจหรือองค์กร เนื่องจากมีผลกระทบต่อความเสี่ยงและความสมดุลในการจัดการการเงิน ส่วนสำคัญของ D/A Ratio ในการวิเคราะห์คือดังนี้
- การวัดความเสี่ยงทางการเงิน: D/A Ratio ช่วยในการวัดความเสี่ยงทางการเงินของธุรกิจ ค่า D/A Ratio สูงมากอาจแสดงถึงการใช้หนี้มากเกินไปและเสี่ยงต่อการไม่สามารถชำระหนี้ได้ในระยะยาว ในขณะที่ค่า D/A Ratio ต่ำมากอาจแสดงถึงการใช้หนี้น้อยเกินไปและการลงทุนที่น้อยเกินไปในโอกาสที่มีรายได้สูง.
- การประเมินความมั่นคงทางการเงิน: ค่า D/A Ratio ต่ำสามารถแสดงให้เห็นว่าองค์กรมีความมั่นคงทางการเงินสูง โดยมีความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ยและชำระหนี้ได้ดี อย่างไรก็ตาม ค่า D/A Ratio สูงมากอาจทำให้มีความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น และองค์กรอาจต้องหาวิธีในการจัดการหนี้สินให้อยู่ในระดับที่ยังคงมั่นคง.
- การบริหารสินทรัพย์และหนี้สิน: D/A Ratio ช่วยในการวัดว่าสินทรัพย์และหนี้สินขององค์กรถูกจัดสรรอย่างไร การเลือกใช้หนี้ในการลงทุนหรือขยายธุรกิจต้องดูว่ามันคุ้มค่าและมีความเสี่ยงที่ยอมรับได้หรือไม่.
- การวิเคราะห์เทียบและการคาดการณ์: การเปรียบเทียบ D/A Ratio ขององค์กรกับองค์กรในอุตสาหกรรมเดียวกันหรือระยะเวลาที่แตกต่างกันสามารถช่วยให้ทราบว่าองค์กรมีผลประกอบการเงินที่ดีหรือแย่มากน้อยเทียบกับคู่แข่ง และสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการคาดการณ์แนวโน้มขององค์กรในอนาคต.
- การตัดสินใจทางการเงิน: D/A Ratio มีผลต่อการตัดสินใจทางการเงิน เช่น การขยายธุรกิจ, การลงทุนในโครงการใหม่, หรือการกู้เงินเพิ่มเติม โดยการรับรู้ค่า D/A Ratio ที่เหมาะสมสามารถช่วยในการตัดสินใจที่มีความรับผิดชอบทางการเงิน.