ทฤษฎี Capm คืออะไร สูตร ประโยชน์ ของแบบจำลอง CAPM คืออะไร

ทฤษฎี Capm คืออะไร

ทฤษฎี CAPM (Capital Asset Pricing Model) เป็นแบบจำลองทางการเงินที่ใช้ในการประเมินค่าของหลักทรัพย์และการกำหนดราคาของหลักทรัพย์ในตลาดทุน โดยทฤษฎีนี้สร้างขึ้นจากการวิเคราะห์เชิงสถิติและฐานทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนและการควบคุมความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน ตัวทฤษฎี CAPM จะช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถประเมินผลตอบแทนที่คาดหวังและความเสี่ยงของการลงทุนในหลักทรัพย์ต่าง ๆ ในตลาดได้อย่างถูกต้องและมีเหตุผล โดยธรรมชาติเป็นแบบจำลองที่มีความสัมพันธ์กับความคาดหวังของผู้ลงทุนในการลงทุนและการต้องรับความเสี่ยงในการลงทุน

ทฤษฎี CAPM (Capital Asset Pricing Model) เป็นแนวคิดที่วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างอัตราผลตอบแทนของหลักทรัพย์และความเสี่ยงที่คาดหวังในการลงทุนในตลาดทุน ด้วยการใช้ตัวแปรความเสี่ยง (Beta) เป็นตัวชี้วัดของความเสี่ยง แนวคิด CAPM พยายามอธิบายว่าผลตอบแทนของการลงทุนในหลักทรัพย์จะต้องมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับตลาดทั่วไปและความต้องการรับความเสี่ยงของผู้ลงทุน โดยCAPM เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการประเมินและจัดการการลงทุนในหลักทรัพย์ในตลาดทุนในแง่มุมของการตอบสนองต่อความเสี่ยงและผลตอบแทนที่คาดหวังจากการลงทุนในอัตราสูงสุด

สูตรทฤษฎี Capm

สูตรพื้นฐานของ CAPM ที่ใช้ในการประเมินค่าอัตราผลตอบแทนของหลักทรัพย์โดยพิจารณาความเสี่ยงและผลตอบแทนในตลาดทั่วไป แต่อย่าลืมว่า CAPM นั้นเป็นแบบจำลองทางทฤษฎีที่มีข้อจำกัดและข้อสมมติบางประการในการประยุกต์ใช้ในสภาวะจริง และมีแนวคิดทางการเงินที่ถูกพัฒนามาเพื่อปรับปรุงความซับซ้อนและความถูกต้องของการประเมินค่าทรัพย์สินในตลาดทุนมากมายในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาสูตรทฤษฎี CAPM (Capital Asset Pricing Model) มีดังนี้

สูตรทฤษฎี Capm
สูตรทฤษฎี Capm

โดยที่:

  • คือค่าคาดหวังของอัตราผลตอบแทนของหลักทรัพย์
  • คืออัตราผลตอบแทนของหลักทรัพย์ที่ไม่มีความเสี่ยง (อัตราผลตอบแทนที่ปลอดภัยที่สุด เช่น อัตราดอกเบี้ยประจำรัฐบาล)
  • คือตัวแปรความเสี่ยงระหว่างหลักทรัพย์ กับตลาดทั่วไป
  • คือค่าคาดหวังของอัตราผลตอบแทนของตลาดทั่วไป

โดยสูตรนี้อธิบายว่าผลตอบแทนของหลักทรัพย์ คาดหวังว่าจะเป็นอัตราผลตอบแทนที่ปลอดภัย () บวกกับผลตอบแทนที่เกิดจากการลงทุนในตลาดทั่วไปที่มีความเสี่ยง (ค่าคาดหวังของตลาด ลบด้วยอัตราผลตอบแทนที่ปลอดภัย) คูณด้วยตัวแปรความเสี่ยง ที่วัดความเสี่ยงของหลักทรัพย์ ต่อความเสี่ยงของตลาดทั่วไป (เป็นการวัดความผันผวนของราคาของหลักทรัพย์  ตามความผันผวนของตลาดทั่วไป)

แนวคิดของทฤษฎี Capm

แนวคิดของทฤษฎี CAPM (Capital Asset Pricing Model) สรุปแล้วคือการนำเสนอวิธีการประเมินค่าของหลักทรัพย์ด้วยการพิจารณาความเสี่ยงและผลตอบแทนที่คาดหวังจากการลงทุนในตลาดทุนโดยใช้ตัวแปรความเสี่ยง (Beta) เป็นส่วนสำคัญในกระบวนการคำนวณ นี่คือแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับทฤษฎี CAPM

การลงทุนและความเสี่ยง

แนวคิดหลักของ CAPM คือการที่ผู้ลงทุนมีความเสี่ยงในการลงทุนและต้องการผลตอบแทนที่สอดคล้องกับความเสี่ยงนี้ หากความเสี่ยงสูงของการลงทุนทำให้มีโอกาสที่ผลตอบแทนจะต่ำลง ผู้ลงทุนจะต้องการค่าคาดหวังของผลตอบแทนที่สูงขึ้นเพื่อรับความเสี่ยงนี้ การลงทุนและความเสี่ยงเป็นแนวคิดสำคัญในด้านการเงินและการลงทุนที่มีผลกระทบมากต่อผู้ลงทุนและตลาดทั้งหมด ดังนี้คือความเสี่ยงในการลงทุนและความเกี่ยวข้องกับการลงทุน

การลงทุนและความเสี่ยง
การลงทุนและความเสี่ยง
    • การลงทุน: การลงทุนหมายถึงการนำเงินหรือทรัพย์สินมาลงทุนในวัตถุดิบหรือทรัพย์สินทางการเงินเพื่อหวังผลตอบแทนทางการเงินในอนาคต การลงทุนสามารถเป็นเพื่อการสะสมทรัพย์สินในอนาคตหรือเพื่อเพิ่มรายได้ในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดและแบบจำลองต่าง ๆ ในการลงทุน เช่น การลงทุนในหลักทรัพย์ เงินฝาก อสังหาริมทรัพย์ ธนาคาร เป็นต้น
    • ความเสี่ยงในการลงทุน: ความเสี่ยงในการลงทุนหมายถึงความไม่แน่นอนหรือความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นกับผลตอบแทนของการลงทุน การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง ระดับความเสี่ยงสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท เช่น ความเสี่ยงทางการเงิน เช่น ผลตอบแทนที่ไม่สามารถคาดหวังได้, ความเสี่ยงของตลาด เช่น การผันผวนในราคาหลักทรัพย์ และความเสี่ยงของบริษัทหรือกลุ่มเป้าหมาย เช่น ปัญหาด้านการจัดการ ความเสี่ยงในการลงทุนทำให้ผู้ลงทุนต้องคำนึงถึงการจัดการความเสี่ยงและการคาดคะเนความเสี่ยงอย่างรอบคอบ
    • การดูแลความเสี่ยง: ผู้ลงทุนจำเป็นต้องดูแลและจัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน วิธีการดูแลความเสี่ยงสามารถทำได้โดยการคาดคะเนความเสี่ยงที่เป็นไปได้ และเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสม เช่น การกระจายการลงทุน (Diversification) และการใช้เครื่องมือการซื้อขายเพื่อประกันความเสี่ยง (Hedging)
    • ความสัมพันธ์ระหว่างรายได้กับความเสี่ยง: ความสัมพันธ์ระหว่างรายได้กับความเสี่ยงสามารถอธิบายถึงแนวโน้มที่ผู้ลงทุนคาดหวังว่าผลตอบแทนจะเกิดขึ้นในสัดส่วนกับความเสี่ยง ในบางกรณี ความสัมพันธ์นี้สามารถสร้างรายได้ที่มีความคงทนต่อความเสี่ยงได้ ในกรณีอื่น ๆ การเพิ่มรายได้อาจเกิดขึ้นพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงขึ้น
    • ความสำเร็จในการลงทุน: ความสำเร็จในการลงทุนขึ้นอยู่กับความรับความเสี่ยงของผู้ลงทุน การประเมินความเสี่ยงและการเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมสามารถช่วยให้ผู้ลงทุนตัดสินใจในการลงทุนอย่างมีเหตุผลและถูกต้อง

ตลาดทุนเป็นตัวกลาง

ตลาดทุนเป็นตัวกลางเป็นส่วนสำคัญของแนวคิดในทฤษฎี CAPM (Capital Asset Pricing Model) ซึ่งอธิบายว่าผู้ลงทุนสามารถลงทุนในทรัพย์สินทั้งหมดในตลาดทุนได้ โดยตลาดทุนจะประกอบด้วยหลักทรัพย์ทุกประเภทและกลุ่มต่าง ๆ ที่มีการซื้อขายบนตลาดทุน และเป็นแหล่งที่รวบรวมข้อมูลและข่าวสารต่าง ๆ เกี่ยวกับหลักทรัพย์ต่าง ๆ

การเรียกตลาดทุนว่า “ตัวกลาง” หมายความว่าเป็นสถานที่ที่หลายคนมาเป็นจำนวนมากเพื่อซื้อหรือขายทรัพย์สิน และการเป็นตัวกลางนั้นทำให้มีความเป็นราคาที่เป็นที่ยอมรับได้สำหรับหลักทรัพย์ทั้งหมดในตลาด นี่เป็นฐานะที่สำคัญในการคำนวณและประเมินอัตราผลตอบแทนที่คาดหวังของหลักทรัพย์ในที่สุด ด้วยการใช้อัตราผลตอบแทนของตลาดทั่วไป (E(Rm​)) และอัตราผลตอบแทนที่ไม่มีความเสี่ยง (Rf​) เพื่อประมาณค่าคาดหวังของผลตอบแทนที่สามารถคาดหวังได้จากการลงทุนในทลัพย์สินบนตลาดทั่วไป

อัตราผลตอบแทนที่ไม่มีความเสี่ยง

อัตราผลตอบแทนที่ไม่มีความเสี่ยง (Rf​) หมายถึงอัตราผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนจะได้รับจากการลงทุนในทรัพย์สินที่ถือไว้เป็นทรัพย์สินปลอดภัยที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุดในการลงทุนในตลาดทุน เรียกว่า “อัตราผลตอบแทนของทรัพย์สินที่ไม่มีความเสี่ยง” หรือ “อัตราผลตอบแทนที่ปลอดภัยที่สุด” อัตราผลตอบแทนที่ไม่มีความเสี่ยงนี้จะใช้เป็นอัตราที่ถือเป็นมาตรฐานในการประเมินผลตอบแทนจากการลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงกว่าหรือเทียบเท่ากับตลาดทั่วไปในทางทฤษฎี CAPM และการวิเคราะห์การลงทุนในทางปฏิบัติ

อัตราผลตอบแทนที่ไม่มีความเสี่ยง
อัตราผลตอบแทนที่ไม่มีความเสี่ยง

อัตราผลตอบแทนที่ไม่มีความเสี่ยงถูกใช้ในสูตร CAPM เพื่อประมาณค่าอัตราผลตอบแทนที่คาดหวังของหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำหรือเทียบเท่ากับตลาดทั่วไป ในรูปแบบของสูตร CAPM ดังนี้

E(Ri​)=Rf​+βi​×(E(Rm​)−Rf​)

    • E(Ri​) คืออัตราผลตอบแทนที่คาดหวังของหลักทรัพย์ i
    • Rf​ คืออัตราผลตอบแทนที่ไม่มีความเสี่ยง (อัตราผลตอบแทนที่ปลอดภัยที่สุด เช่น อัตราดอกเบี้ยประจำรัฐบาล)
    • βi​ คือตัวแปรความเสี่ยงระหว่างหลักทรัพย์ i กับตลาดทั่วไป
    • E(Rm​) คือค่าคาดหวังของอัตราผลตอบแทนของตลาดทั่วไป

ตัวแปรความเสี่ยง (Beta)

ตัวแปรความเสี่ยง (β) ในทฤษฎี CAPM (Capital Asset Pricing Model) เป็นส่วนสำคัญที่ใช้ในการวัดความเสี่ยงของหลักทรัพย์ และเป็นตัวแทนของความเกี่ยวข้องระหว่างความเสี่ยงของหลักทรัพย์และความเสี่ยงของตลาดทั่วไปตัวแปรความเสี่ยง (β) นำเสนอความเกี่ยวข้องระหว่างความเสี่ยงของหลักทรัพย์และความเสี่ยงของตลาดทั่วไป หากหลักทรัพย์มีค่า β มากกว่า 1 แสดงว่าหลักทรัพย์นั้นมีความเสี่ยงสูงกว่าตลาด และถ้าค่า β น้อยกว่า 1 แสดงว่าหลักทรัพย์มีความเสี่ยงต่ำกว่าตลาด

อัตราผลตอบแทนที่คาดหวัง (Expected Return)

อัตราผลตอบแทนที่คาดหวัง (Expected Return) เป็นค่าที่คาดหวังว่าจะได้รับจากการลงทุนในหลักทรัพย์หรือพอร์ตการลงทุนในอนาคต เป็นผลตอบแทนที่คำนวณจากอัตราผลตอบแทนที่เป็นไปได้จากความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนต้องรับ โดยใช้โมเดลทางการเงิน เช่น ทฤษฎี CAPM หรือโมเดลการวิเคราะห์เงินทุนอื่น ๆ แนวคิดสำคัญใน CAPM คือการคำนวณค่าคาดหวังของผลตอบแทนของหลักทรัพย์ (E(Ri​)) โดยใช้สูตรที่เกี่ยวข้องกับค่าคาดหวังของตลาดทั่วไป (E(Rm​)) และอัตราผลตอบแทนที่ไม่มีความเสี่ยง (Rf​) ร่วมกับตัวแปรความเสี่ยง (βi​) ที่แสดงถึงความเกี่ยวข้องระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทนที่คาดหวัง

ประโยชน์ของทฤษฎี Capm

แบบจำลอง CAPM (Capital Asset Pricing Model) มีประโยชน์มากมายในการวิเคราะห์และการบริหารการลงทุนในตลาดทุน นี่คือบางประโยชน์ที่สำคัญของแบบจำลอง CAPM:

ประโยชน์ของทฤษฎี Capm
ประโยชน์ของทฤษฎี Capm
  1. การประเมินความเสี่ยงและความคาดหวังของการลงทุน: CAPM ช่วยให้ผู้ลงทุนประเมินค่าความเสี่ยงและผลตอบแทนที่คาดหวังจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ซึ่งช่วยในกระบวนการตัดสินใจการลงทุนที่มีเหตุผลและพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างผลตอบแทนและความเสี่ยง
  2. การวางแผนการลงทุน: CAPM ช่วยในการวางแผนการลงทุนที่เป็นไปได้และเหมาะสม ผู้ลงทุนสามารถใช้แบบจำลองนี้เพื่อคำนวณผลตอบแทนที่คาดหวังจากการลงทุนในหลักทรัพย์ต่าง ๆ และสร้างพอร์ตการลงทุนที่สอดคล้องกับเป้าหมายและความเสี่ยงของพวกเขา
  3. การเปรียบเทียบหลักทรัพย์: ผู้ลงทุนสามารถใช้ CAPM เพื่อเปรียบเทียบหลักทรัพย์ที่ต่างกันโดยใช้ตัวแปรความเสี่ยง (Beta) เป็นตัวชี้วัด ซึ่งช่วยในการระบุว่าหลักทรัพย์ใดมีความเสี่ยงและผลตอบแทนที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้ลงทุน
  4. การกำหนดราคาหลักทรัพย์: CAPM ช่วยในการกำหนดราคาของหลักทรัพย์ในตลาดโดยการประเมินผลตอบแทนที่คาดหวังจากการลงทุนในหลักทรัพย์ด้วยความเสี่ยงที่แสดงโดยตัวแปรความเสี่ยง (Beta)
  5. การเลือกพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสม: ผู้จัดการพอร์ตการลงทุนสามารถใช้ CAPM เพื่อความรู้สึกถึงระดับความเสี่ยงและผลตอบแทนที่คาดหวังจากการเลือกทรัพย์สินในพอร์ต จะช่วยในการตัดสินใจเลือกทรัพย์สินในพอร์ตและการกระจายความเสี่ยง
  6. การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างตลาดและหลักทรัพย์: CAPM ช่วยในการวิเคราะห์แนวโน้มและความสัมพันธ์ระหว่างอัตราผลตอบแทนของหลักทรัพย์และตลาดทั่วไป เพื่อให้ผู้ลงทุนเข้าใจแนวโน้มในการเคลื่อนไหวของราคาหลักทรัพย์
  7. การวิเคราะห์อัตราผลตอบแทนต่ำกว่าหรือเกินคาดหวัง: ด้วย CAPM ผู้ลงทุนสามารถวิเคราะห์ว่าหลักทรัพย์มีผลตอบแทนต่ำกว่าหรือเกินคาดหวังเมื่อเทียบกับความเสี่ยงที่มี
  8. การประเมินอัตราค่าเงินที่ถูกต้อง: CAPM ช่วยในการประเมินอัตราค่าเงินที่ถูกต้อง () ซึ่งเป็นอัตราผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนคาดหวังได้จากการลงทุนในทรัพย์สินที่ไม่มีความเสี่ยง